รีวิว MSI H170M-A PRO

นับตั้งแต่หลังการการเปิดตัวไปของยุคที่ 6 จาก Intel Core i ในตระกูล Skylake-s แพคเกจหรือซ๊อกเก็ต LGA1151 แฟลตฟอร์ม Skylake-S LGA1151 เริ่มจะมีทางเลือกของซีพียูตั้งแต่ในระดับราคาสบายๆจนไปถึงกระเป๋าฉีก ที่มาตั้งแต่ Pentium จนไปถึง Core i7 เลือกได้ตามงบประมาณ แต่ทางเลือกของเมนบอร์ดกันบ้าง ที่บางทีชวนสับสนหรือไม่รู้กันว่าผู้ผลิตเมนบอร์ดนั้นออกแบบมาเอาอกเอาใจกับความต้องการเฉพาะกลุ่มในราคาสบายๆกันหรือเปล่า ที่เราจะเห็นได้ว่าชิพเซ็ตในระดับเริ่มต้นของ Intel 100 Series ที่มีการจับมาทำเมนบอร์ดเฉพาะทางกันพอสมควร คราวที่แล้วหลายเดือนที่ผ่านมานั้นเราก็ได้เห็นเมนบอร์ดชิพเซ็ต H170 ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานด้าน Business กับ MSI H170M-A PRO ที่ในคราวนี้เราจะได้ได้พบกับเมนบอร์ดชิพเซ็ต H110 กับในตระกูล GAMING จาก MSI ด้วย MSI H110M GAMING ที่โดยภาพรวมนั้นเมนบอร์ดตัวนี้อาจะดูเป็นเมนบอร์ดในระดับราคาสบายกระเป๋าตามระดับราคาด้วยชิพเซ็ต แต่ด้วยความเป็น MSI GAMING ที่ได้ออกแบบเมนบอร์ดตัวนี้ให้มีความเป็นเกมมิ่งเมนบอร์ด ที่ทำงานร่วมกับ CPU ตระกูล Skylake ในแพคเกจ LGA1151 ได้เป็นอย่างดี MSI H110M GAMING อาจจะไม่ใช่เมนบอร์ดในระดับ Hi-end แต่ทาง MSI ก็ยังคงได้ใส่ใจกับคุณภาพของตัวเมนบอร์ดอย่างเต็มที่ด้วยการใช้อุปกรณ์มาตรฐาน Military Class 4 และ อื่นๆในตามแบบฉบับของ MSI เพื่อให้ MSI H110M GAMING เป็นเมนบอร์ดที่คุณภาพสูงในราคาสบายๆ ที่ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์และซอฟต์แวร์เสริมการใช้งานอีกมากมาย เพื่อความสมบูรณ์แบบกับความเป็นเกมมิ่งเมนบอร์ดของ MSI H110M GAMING ในระดับการใช้งาน GAMING CERTIFIED ที่ทาง MSI ได้ทดสอบทั้งคุณภาพเมนบอร์ดและซอฟต์แวร์เสริมการใช้งานจากการใช้งานจริงจากนักกีฬา eSPORT ตัวจริงมาแล้ว

Package & Bundled


หน้าตาของตัวแพ็คเกจที่ใช้ธีมมังกรสีแดงตัดกับสีดำตามสไตล์ตระกูล GAMING จาก MSI  ของในชุดนั้นคู่มือกับแผ่นโปรแกรมการติดตั้ง ที่จะขาดไปไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนสาย SATA III มีมาให้สองเส้น

Design & Detail

ธีมของเมนบอร์ดที่มาในแนวโทนสีดำสีดำเป็นหลักที่มีการแซมด้วยสีแดงเพื่อความเป็น MSI GAMING ที่ดูให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่ดุดันเตรียมพร้อมกับการใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง การจัดวางอุปกรณ์นับว่าลงตัวดีเกือบดีมาก เท่าที่ดูถ้าเทียบกับราคาเมนบอร์ดถือว่าเมนบอร์ดโมเดลนี้อัดแน่นพอสมควร ที่มองดูแล้วมีการจัดวางสัดส่วนการใช้งานที่ดี


จาก PCB ที่จะเห็นได้ว่ามันเป็น PCB สีดำด้าน ที่มีการเก็บงานและรายละเอียดได้เรียบร้อยดีมากๆ กับขนาดของเมนบอร์ดแบบมาตรฐาน mATX หรือ Micro ATX ในส่วนพื้นที่ของระบบเสียงมีการตัดกราวด์แยกออกจากส่วนหลักของเมนบอร์ด เพื่อให้มีสัญญาณรบกวนต่ำที่สุด ที่มองดูดีๆจะเห็นหลอดไฟ LED อยู่ทั้งสี่มุมของเมนบอร์ด โดยจะมีไฟมุมละสองหลอด ให้ส่องสว่างเพื่อความสวยงามขณะการใช้งาน ให้อารมณ์ความเป็นเกมมิ่งเมนบอร์ดมากขึ้น หรือจะแต่งเคสก็ไม่มีใครว่า

ซีพียูที่รองรับนั้น หลักๆถ้าพูดสั้นๆง่ายๆ Socket LGA1151 สามารถติดตั้งกับเมนบอร์ดตัวนี้ได้หมด ถ้าตามหลักการในตอนนี้ก็เป็นพวก 6th Gen Intel Core / Pentium / Celeron ในโมเดลที่มีค่า TDP ไม่เกิน 95 Watt


เมโมรีที่รองรับนั้นเป็นชนิด DDR4 ตามมาตรฐานของ LGA1151 โดยรองรับการติดตั้งเมโมรีแบบ Dual Channels กันตามมาตรฐาน ที่รองรับจะอยู่ที่บัส 2133Mhz ที่ความจุสูงสุด 64GB ที่ยังมีการรองรับกับเมโมรีโปไฟล์ XMP แต่ว่าความเป็นจริง DDR4 ที่เป็น XMP ผมยังไม่เคยได้จับแบบความเร็ว 2133 Mhz ก็ไม่มีประโยชน์เท่าไรในส่วนนี้ แต่ MSI นั้นมีฟีเจอร์ DDR4 Boost ที่ทำให้สามารถเค้นประสิทธิภาพของเมโมรีออกได้ที่สุดตามที่จะเป็นไปได้อีกด้วย แต่ถ้าใครสายจูนแรมอยู่แล้ว ลองปรับทิมมิ่งกันดู บัส 2133 กับคอนฟิกทิมมิ่งแน่นๆนี่ช่วยให้ไหลลื่นได้เยอะแม้จะไม่ใช้บัสสูง อันนี้ก็พูดจากการใช้งานจริงกับเครื่องส่วนตัวที่บ้านผม


ภาคจ่ายไฟมาแบบ 6 เฟส ที่นับว่าจัดเต็มกับบนเมนบอร์ดชิพเซ็ต H110 แล้วครับ โดยอุปกรณ์ภาคจ่ายไฟนั้นเป็นมาตรฐาน Military Class 4 ใช้เป็นโซลิตคาปาซิเตอร์ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน พร้อมกับมอสเฟส Low RDS พร้อมกับภาคจ่ายไฟปล่อยโล่งไม่มีฮีทซิงค์ใดๆ แต่เอาเข้าจริงๆการใช้งานแบบเดิมๆไม่ได้โอเวอร์คล๊อก(เพราะลากไม่ได้อยู่แล้ว) กับภาคจ่ายไฟระดับนี้ ใช้งาน 24/7 ในเคสที่มีการระบายอากาศที่ดีถือว่าสบายๆครับ


ฮีทซิงค์อลูมิเนียมสีดำขนาดพอดี มีฝาครอบโลโก้ GAMING G Series มังกรแดงเพื่อความสวยงาม รับหน้าที่ระบายความร้อนชิพเซ็ต Intel H110


พอร์ต SATA III 6GB/s จะมีมาทั้งหมดสี่พอร์ตบนเมนบอร์ด เป็นการควบคุมโดยชิพเซ็ต H110 ที่ไม่มีการรองรับการเชื่อมต่อ RAID ใดๆตามระดับของชิพเซ็ต


สล๊อต PCI-Express x16 3.0 หนึ่งสล๊อตเป็นความเร็วแบบ x16อส่วนที่เหลือจากเป็น PCI-e x1 2.0 อีกสองสล๊อต


จุดสำหรับการเชื่อมต่อ Bracket Port USB 2.0 ,Printer และ Serial (com)


จุดสำหรับการเชื่อมต่อ USB 3.1 Gen1 หรือ USB 3.0 ที่เรารู้จักกันมาก่อนหน้ามาตรฐาน USB 3.1 จะออกมา


EZ Debug LED ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการแก้ไขในกรณีที่อุปกรณ์อย่าง VGA ,RAM และ CPU มีปัญหาจนระบบไม่สามารถบูตได้


ในภาพอาจะไม่ค่อยชัดเจนเท่าไรนัก กับไฟ LED สีแดงที่ส่องสว่างลอดออกมาจากใต้ตัวเมนบอร์ด


PCB ที่เป็นแบบ 4-Layer มีการทำ Isolated ground ในส่วนระบบเสียง


ระบบเสียงมีหัวใจหลักจาก Realtek ALC887 ที่ยังมาพร้อมกับ nippon audio capacitor รองรับกันกับระบบเสียงได้สูงสุด 7.1 ทิศทาง


Back Panal I/O Ports

1 x PS/2 Mouse
1 x PS/2 Keyboard
1 x DVI-D
1 x HDMI
1 x D-Sub
1 x LAN (RJ45) port(s)
4 x USB 3.1 Gen1 (blue)
2 x USB 2.0
1 x 6-channel Audio I/O

 

ที่มา www.overclockzone.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *